หน้าแรก

ระบบดำเนินการทางวินัย ประกอบด้วยระบบย่อย 8 ระบบได้แก่

1. ระบบย่อย เรื่องร้องเรียน (DP1)

ผู้ใช้ระบบ

  1. เจ้าหน้าที่ระบบวินัย

ภาพรวมการทำงานของเรื่องร้องเรียน

  1. เจ้าหน้าที่ระบบวินัย บันทึกเรื่องร้องเรียน และ/หรืออัปโหลดเอกสารหลักฐานที่จำเป็น
    • กรณีผู้ถูกร้องเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่ไม่ใช่ระดับชำนาญการพิเศษขึ้นไป เจ้าหน้าที่ผู้กรอกข้อมูลระบบวินัยของหน่วยงาน สามารถทำได้ทันที
    • กรณีผู้ถูกร้องเป็นระดับชำนาญการพิเศษขึ้นไป ผู้กรอกข้อมูลต้องเป็น สกจ. เท่านั้น ดังนั้น ในทางปฏิบัติ เรื่องร้องเรียนจะต้องถูกส่งไปยัง สกจ. ด้วยกระบวนการภายนอกระบบ
    • กรณีผู้ถูกร้องมีหลายคน หรือมาจากหลายหน่วยงาน ให้พิจารณาที่ตัวผู้ถูกร้องที่อยู่ระดับสูงสุด
    • โดยสรุป ผู้มากรอกข้อมูลเรื่องร้องเรียนลงในระบบ จะต้องรู้อยู่แล้วว่าเรื่องนั้น ๆ ตนเองสามารถกรอกได้หรือไม่
  2. เจ้าหน้าที่ระบบวินัย แก้ไขเรื่องร้องเรียน และ/หรืออัปโหลดเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม
  3. เจ้าหน้าที่ระบบวินัย ส่งต่อเรื่องร้องเรียนไปยังผู้มีอำนาจในการสืบสวน และ/หรือยุติเรื่องร้องเรียน

กรณีสร้างเรื่องร้องเรียน

  • ฟิลด์ที่ต้องมีได้แก่
    • วันที่รับเรื่อง (DatePicker) (TOR=วันที่ร้องเรียน) (Required): เป็นวันที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของวินัยนั้น ๆ (เป็นคนละฟิลด์กับวันที่ที่กรอกแบบฟอร์ม ระบบจะสนใจที่วันที่รับเรื่อง ไม่สนใจว่ากรอกฟอร์มเวลาไหน)
    • เรื่องร้องเรียน (TextArea) (Required): เรื่องที่ร้องเรียน
    • รายละเอียด (TextArea): รายละเอียดของเรื่องร้องเรียน
    • ผู้ถูกร้องเรียน (Dropdown) (Required): ระบุว่าใครคือผู้ที่ถูกร้องเรียนในเรื่องนั้น เลือกได้อย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง “บุคคล” “หน่วยงาน” หรือ “กรุงเทพมหานคร”
      • กรณีเลือก “บุคคล”: ระบบจะต้องให้ค้นหารายชื่อจากระบบทะเบียนประวัติได้
        • ค้นได้จากเลขประจำตัวประชาชนหรือชื่อนามสกุล
        • ค้นได้เฉพาะผู้ที่อยู่ภายใต้หน่วยงานที่เจ้าหน้าที่ผู้กรอกข้อมูลสังกัดอยู่เท่านั้น
        • กรณีผู้กรอกคือ สกจ. ให้ค้นได้จากทั้งระบบ
        • เพิ่มบุคคลได้เรื่อย ๆ ไม่จำกัด
        • ระบบต้องสืบค้นจากคนที่เกษียณหรือลาออกไปแล้วได้
        • สามารถลบคนที่เลือกออกไปได้
      • กรณีเลือก “หน่วยงาน”: ถ้าเลือกตัวเลือกนี้ ระบบจะต้องแสดง Dropdown ให้เลือกหน่วยงานที่ต้องการร้องเรียน เลือกได้ครั้งละ 1 หน่วยงาน
      • กรณีเลือก “กรุงเทพมหานคร”: ถ้าเลือกตัวเลือกนี้ ไม่ต้องแสดงตัวเลือกใด ๆ เพิ่มเติมอีก
    • หน่วยงานที่พิจารณา (Dropdown) (TOR=ผู้มีอำนาจในการสืบสวน หรือหน่วยงานที่มีอำนาจในการสืบสวน): ฟิลด์หน่วยงานจะเปลี่ยนตัวเลือกไปตามผู้ถูกร้องเรียน
      • ถ้าผู้ถูกร้องเรียนเป็นคนในหน่วยงานเดียวกัน: ฟิลด์นี้จะแสดงเป็นเขตหรือสำนักที่ผู้ถูกร้องเรียนสังกัดอยู่
      • ถ้าผู้ถูกร้องเรียนเป็นคนต่างหน่วยงานปนกัน หรือมีระดับชำนาญการพิเศษ หรืออาวุโสขึ้นไป: ฟิลด์นี้จะแสดงเป็น สกจ.
      • ถ้าผู้ถูกร้องเป็นหน่วยงานหรือกรุงเทพมหานคร: ฟิลด์นี้จะแสดงเป็น สกจ.
    • ลักษณะความผิด (Dropdown) (TOR=ลักษณะเรื่องที่ถูกร้องเรียน): มีตัวเลือกดังนี้
      • ยังไม่ระบุ (Default)
      • ไม่ร้ายแรง
      • ร้ายแรง
    • ระดับการพิจารณา (Dropdown): คือฟิลด์ที่ระบุว่าเรื่องนั้น ๆ มีความด่วนมากหรือน้อยแค่ไหน ภายหลังจากรับเรื่องร้องเรียน จะมีเวลา 45 วัน (ปกติ) ในการทำเรื่องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ว่าจะดำเนินการต่อหรือยุติเรื่อง แต่ความด่วนนี้จะไม่แน่นอน ขึ้นกับว่าใครเป็นผู้ส่งเรื่องมาให้พิจารณา ถ้าเป็น ปปช. ส่งเรื่องมาจะมีเวลา 30 วัน (ด่วน) แต่ก็มีกรณีด่วนมากคือ 15 วัน ดังนั้นฟิลด์นี้จะมีตัวเลือกดังนี้
      • ปกติ (45 วัน) (Default)
      • ด่วน (30 วัน)
      • ด่วนมาก (15 วัน)
    • วันที่กำหนดพิจารณา (DatePicker): ฟิลด์กำหนด Deadline ไว้แจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ให้รีบทำเรื่องให้เสร็จภายในวันที่กำหนด ระบบจะ Auto ให้ตาม “ระดับการพิจารณา” โดยนับจากวันที่รับเรื่อง แต่ผู้ใช้สามารถแก้ไขหรือปล่อยว่างไว้ได้
    • วันแจ้งเตือนล่วงหน้า (TextBox): กำหนดว่าให้แจ้งเตือนกี่วัน ก่อนจะถึงวันที่กำหนดพิจารณา
    • รับเรื่องร้องเรียนจาก (Dropdown): ให้เลือกว่าได้รับเรื่องร้องเรียนมาจากใคร/หน่วยงานไหน รายชื่อเบื้องต้นประกอบด้วย
      • สตง.
      • ปปช.
      • ปปท.
      • จดหมาย
      • อีเมล
      • โทรศัพท์
      • บอกกล่าว
    • ผู้ร้องเรียน (TextArea): ให้กรอกรายละเอียดผู้ร้องเรียนอย่างอิสระ
    • เอกสารหลักฐานประกอบเรื่องร้องเรียน (ไฟล์เอกสารหลักฐาน)​: ไว้อัปโหลดไฟล์เอกสารหลักฐานประกอบเรื่องร้องเรียน
      • เจ้าหน้าที่ผู้สร้างแบบฟอร์มจะเห็นแบบฟอร์มและไฟล์ของตัวเอง คนอื่นจะไม่เห็น (แบบฟอร์มผูกกับตัวบุคคล) แม้จะเป็นเจ้าหน้าที่ระบบวินัยเหมือนกัน
      • ผู้บังคับบัญชาตามลำดับ ถ้ามีสิทธิ์เข้าระบบวินัย จะสามารถเข้าถึงไฟล์นี้ได้เช่นกัน
  • นอกจากฟิลด์ที่ให้ผู้ใช้กรอกแล้ว ต้องมีฟิลด์ซ่อนดังนี้
    • สถานะเรื่องร้องเรียน: มีตัวเลือกดังต่อไปนี้
      • ใหม่ (Default): เมื่อสร้างเรื่อง จะอยู่ในสถานะนี้โดยอัตโนมัติ
      • ยุติเรื่อง: กรณีเรื่องอยู่ในสถานะ “ใหม่” จะอนุญาตให้กดปุ่มยุติเรื่องได้ แต่หากสถานะเปลี่ยนเป็น “มีมูลส่งไปสืบสวนแล้ว” จะไม่สามารถยุติเรื่องได้
      • มีมูลส่งไปสืบสวนแล้ว: ถ้าเรื่องร้องเรียนนั้นมีมูล เจ้าหน้าที่วินัยต้องกดส่งไปขั้นตอนการสืบสวน เมื่อกดส่งแล้วเรื่องร้องเรียนจะเปลี่ยนสถานะเป็น “มีมูลส่งไปสืบสวนแล้ว” และจะไม่มีการเปลี่ยนสถานะใด ๆ อีก
    • วันที่กรอกแบบฟอร์ม: วันที่ที่สร้างแบบฟอร์ม
    • วันที่แก้ไขแบบฟอร์ม: วันที่ที่แก้ไขแบบฟอร์ม

กรณีแก้ไขเรื่องร้องเรียน

  • เรื่องร้องเรียนจะแก้ไขได้เฉพาะสถานะ “ใหม่” เท่านั้น ถ้าสถานะเปลี่ยนเป็น “ยุติเรื่อง” หรือ “มีมูลส่งไปสืบสวนแล้ว” จะไม่สามารถแก้ไขได้อีก

การทำงานอื่น ๆ ของเรื่องร้องเรียน

  • เรื่องร้องเรียน ผูกกับตำแหน่งเลขที่ของเจ้าหน้าที่ ไม่ผูกที่ตัวบุคคล ดังนั้น ถ้าเจ้าหน้าที่ผู้สร้างเรื่องร้องเรียนย้ายออกจากตำแหน่งนั้น และมีเจ้าหน้าที่คนใหม่มาถือครองตำแหน่งเลขที่แทน เจ้าหน้าที่คนใหม่จะมองเห็นรายการเรื่องร้องเรียนที่ผูกกับตำแหน่งเลขที่นั้นทั้งหมด
  • เมื่อสร้างเรื่องร้องเรียนเสร็จแล้ว ระบบจะยินยอมให้แก้ไขข้อมูลในเรื่องร้องเรียนได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะส่งเรื่องร้องเรียนไปยังขั้นตอนการสืบสวน
  • รายการเรื่องร้องเรียน สามารถเลือกให้แสดงตามวันที่รับเรื่องร้องเรียนได้
  • ต้องมีการแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ที่ทำเรื่องร้องเรียน เมื่อถึงกำหนดวันแจ้งเตือนล่วงหน้า
  • เมื่อกดส่งเรื่องร้องเรียนไปยังขั้นตอนการสืบสวน ระบบต้องเก็บฟิลด์ต่อไปนี้เพิ่มเติม ได้แก่
    • วันที่ส่งเรื่อง
  • เรื่องร้องเรียนที่กดส่งไปยังขั้นตอนสืบสวน/สอบสวนแล้ว จะไม่สามารถกลับมาแก้ไขข้อมูลได้อีก
  • การส่งเรื่องร้องเรียนไปยังขั้นตอนสืบสวน จะเป็นการ Copy ข้อมูลไป ดังนั้นในฝั่งสืบสวนหรือสอบสวน จะมีข้อมูลเรื่องร้องเรียนที่เป็นสำเนา การแก้ไขในขั้นตอนอื่นจะไม่กระทบกับเรื่องร้องเรียนเดิม
  • เมื่อกดส่งเรื่องร้องเรียนไปยังขั้นตอนสืบสวน ระบบจะต้องสร้างเรื่องสืบสวนขึ้นมาโดยอัตโนมัติ โดยให้เจ้าของเรื่องคือเจ้าหน้าที่คนเดิม

UPDATE 2023-11-21

  • เมื่อสร้างเรื่องร้องเรียน ต้องส่งการแจ้งเตือนด้วยข้อความและอีเมล ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง — หัวหน้าหน่วยงานของผู้ที่ถูกร้องเรียน (ผอ. สำนัก หรือ ผอ.เขต) และฝ่ายการเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่ถูกร้องเรียน หรือฝ่ายปกครองของสำนักงานเขตที่เจ้าหน้าที่สังกัด
  • เรื่องร้องเรียนจะต้องมีอ้างอิงไปยังเรื่องสืบสวนด้วย เพื่อบอกให้รู้ว่าเรื่องร้องเรียนนั้นเปลี่ยนไปเป็นเรื่องสืบสวนเรื่องใด
  • ผู้ถูกร้องเรียนที่เป็นบุคคล ระบบต้องเก็บข้อมูลดังต่อไปนี้ (ให้สำเนาข้อมูลมาจากระบบทะเบียนประวัติเลย)
    • เลขประจำตัวประชาชน
    • คำนำหน้านาม
    • ชื่อ - นามสกุล
    • ตำแหน่ง
    • ระดับ
    • เงินเดือน
    • หน่วยงาน

UPDATE 2023-11-22

  • ผู้ถูกร้องเรียนที่เป็นบุคคล มีฟิลด์เพิ่มเติม
    • ตำแหน่งเลขที่
  • มีไอคอน info บริเวณชื่อของผู้ถูกร้องเรียนแต่ละคน ให้คลิกเพื่อแสดง Popup หรือข้อมูลจากทะเบียนประวัติที่เป็นปัจจุบัน
  • ขั้นตอนการส่งเรื่องร้องเรียนไปยังสืบสวน ต้องมี Popup แสดงรายชื่อผู้ถูกร้องเรียนให้เลือกว่าจะส่งคนไหนไปที่กระบวนการสืบสวนหรือไม่
    • เบื้องต้นให้เลือกทุกคนไว้เป็น Default
    • แต่มี CheckBox ให้ติ๊กคนที่ไม่ส่งออกได้
  • ต้องมีฟิลด์ “ผลการตรวจสอบเรื่องร้องเรียน” ที่เป็นช่องให้กรอกข้อความเพิ่มขึ้นมา แต่ฟิลด์นี้จะแสดงให้กรอกตอน “ยุติเรื่อง” กับ “มีมูลส่งไปสืบสวน”
  • ฟิลด์ผลการตรวจสอบเรื่องร้องเรียน จะแสดงในหน้ารายละเอียดเรื่องร้องเรียน ภายหลังจากที่กดยุติเรื่องหรือส่งไปสืบสวนแล้ว มีไว้ให้ระบุว่าผลการตรวจสอบเป็นอย่างไร กรณีที่มีคนไม่ผิดต้องเอาออก ไม่ส่งไปสืบสวนเพราะอะไร เป็นต้น
  • การนำเข้าไฟล์ในทุกกระบวนการ ต้องรองรับไฟล์ pdf และ docx เสมอ

UPDATE 2023-11-23

  • “ผลการตรวจสอบเรื่องร้องเรียน” จากเดิมให้กรอกตอนกดยุติเรื่องหรือมีมูลส่งไปสืบสวน ปรับแก้ใหม่เป็นเพิ่มช่องให้กรอกในแบบฟอร์มเรื่องร้องเรียนเลย เพื่อจะได้ทำงานเหมือนกับเรื่องสืบสวน

2. ระบบย่อย สืบสวน(DP2)

ผู้ใช้ระบบ

  1. เจ้าหน้าที่ระบบวินัย

ภาพรวมการทำงานของสืบสวน

  1. เจ้าหน้าที่ระบบวินัยส่งเรื่องร้องเรียนมาที่ระบบสืบสวน
  2. เจ้าหน้าที่ระบบวินัย แก้ไขข้อมูลการสืบสวน และ/หรืออัปโหลดเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม
  3. เจ้าหน้าที่ระบบวินัย ส่งต่อเรื่องสืบสวนไปยังกระบวนการสอบสวน และ/หรือยุติเรื่อง

รายละเอียดระบบสืบสวน

  • ข้อมูลการสืบสวนจะถูกสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ เมื่อมีการส่งเรื่องร้องเรียนต่อมายังระบบสืบสวน
  • ข้อมูลจากระบบเรื่องร้องเรียน จะถูกทำสำเนามายังระบบสืบสวนทั้งหมด การแก้ไขใด ๆ ในเรื่องร้องเรียนที่ระบบสืบสวน จะไม่กระทบข้อมูลเรื่องร้องเรียนเดิมในระบบเรื่องร้องเรียน
  • แต่ระบบต้องสามารถลิ้งก์ย้อนกลับไปยังเรื่องร้องเรียนเดิมได้

ฟอร์มเรื่องสืบสวน

  • ฟิลด์ที่นำมาจากเรื่องร้องเรียน
    • วันที่รับเรื่อง: แก้ไขไม่ได้
    • เรื่องร้องเรียน: แก้ไขได้ (TOR=6.9.2.1 (1) เรื่องร้องเรียนทางวินัย)
    • รายละเอียด: แก้ไขได้ (TOR=6.9.2.1 (2) กรณีเรื่องถูกร้องเรียน)
    • ผู้ถูกร้องเรียน: กรณีเป็นบุคคล สามารถเพิ่ม ลบ แก้ไขรายชื่อได้, กรณีหน่วยงานหรือกรุงเทพมหานคร แก้ไขไม่ได้
    • หน่วยงานที่พิจารณา: แก้ไขไม่ได้
    • ลักษณะความผิด: แก้ไขได้ (TOR=6.9.2.1 (4) ลักษณะของการกระทำ)
    • ระดับการพิจารณา: แก้ไขไม่ได้
    • รับเรื่องร้องเรียนจาก: แก้ไขไม่ได้
    • ผู้ร้องเรียน: แก้ไขไม่ได้
    • เอกสารหลักฐานประกอบเรื่องร้องเรียน: เพิ่มไฟล์ได้ เอาไฟล์ของเดิมจากเรื่องร้องเรียนออกได้ แต่จะต้องไม่ลบไฟล์นั้น (เนื่องจากต้องเชื่อมกับเรื่องเรียนเดิม)
    • ผลการตรวจสอบเรื่องร้องเรียน: แก้ไขไม่ได้
  • ฟิลด์เพิ่มเติมในระบบสืบสวน
    • ลักษณะการสืบสวน (Dropdown): ประกอบด้วยตัวเลือกดังนี้
      • แต่งตั้งกรรมการสืบสวน
      • สืบสวนทางลับ
      • อื่น ๆ
    • วันที่สืบสวน: (TOR=6.9.2.1 (3) วันที่มีคำสั่งให้สืบสวน) แบ่งเป็น 2 ฟิลด์ คือ วันที่เริ่มต้น กับ วันที่สิ้นสุด
      • เมื่อได้รับเรื่องสืบสวน ต้องกำหนดวันที่เริ่มต้น กับวันที่สิ้นสุด
      • ระบบจะยินยอมให้ขยายเวลาสืบสวนได้ (มีปุ่มให้กดขยายเวลา) โดยให้เลือกเป็นจำนวนวัน
        • 15 วัน
        • 30 วัน
        • 45 วัน
        • 60 วัน
      • ระบบจะคำนวณวันที่ขยายให้โดยอัตโนมัติ โดยเลือกจากวันสิ้นสุด เช่น สิ้นสุด 30 เม.ย. ขยายเวลาอีก 15 วัน ก็จะสิ้นสุด 15 พ.ค.
      • ทุกครั้งที่มีการขยายเวลา ต้องเก็บประวัติไว้ด้วย เช่น
        • กำหนดวันสืบสวนครั้งแรก 1 เม.ย. - 30 เม.ย.
        • ขยายเวลา 15 วัน: สิ้นสุด 15 พ.ค.
        • ขยายเวลา 15 วัน: สิ้นสุด 30 พ.ค.
      • เอาประวัติวันที่สืบสวนทั้งหมด มาแสดงเป็นปฏิทิน เพื่อให้เห็นภาพรวมของวินัยเรื่องนั้น ๆ ว่าเรื่องนี้รับมาวันที่เท่าไหร่ เริ่มต้นวันที่เท่าไหร่ มีการขยายเวลาแต่ละครั้งเป็นจำนวนเท่าไหร่
    • รายละเอียดการสืบสวน (TextArea): มีช่องให้กรอกข้อความ และมีให้อัปโหลดเอกสารที่เกี่ยวข้อง
    • ผลการสืบสวนข้อเท็จจริง: (TOR=6.9.2.1 (6) ผลการดำเนินการพิจารณา (7) อ้างอิงมาตราตามกฎหมาย) จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่ให้เลือกสถานะ กับส่วนที่ให้กรอกข้อความ
      • ส่วนที่เป็นสถานะ จะเป็น Dropdown ให้เลือก
        • ยังไม่ระบุ (Default)
        • มีมูล: มีให้เลือกเพิ่มเติม
          • ร้ายแรง
          • ไม่ร้ายแรง
        • ไม่มีมูล: ให้ยุติเรื่อง
      • ส่วนที่เป็นการกรอกข้อความ ประกอบด้วยช่องกรอกข้อความ และอัปโหลดเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวน เช่น รายงานผลการสืบสวน
    • เอกสารประกอบอื่น ๆ: เป็นพื้นที่ให้อัปโหลดเอกสารประกอบอื่น ๆ นอกเหนือจากรายละเอียดการสืบสวน และผลการสืบสวน
    • รายชื่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาความผิดทางวินัย: เพิ่ม ลบ แก้ไข เปลี่ยนตำแหน่งให้กรรมการแต่ละคนได้
  • เมื่อการสืบสวนเสร็จสิ้นแล้ว การทำงานจะเหมือนกับเรื่องร้องเรียน คือสามารถยุติเรื่องหรือส่งต่อไปสอบสวนได้ แต่จะไม่แสดง Popup ให้กรอกเหตุผล เนื่องจากอยู่ในผลการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว
    • ยุติเรื่อง: โดยกรอกเหตุผลไว้ในผลการสืบสวนข้อเท็จจริงว่ายุติเรื่องเพราะอะไร
    • มีมูลส่งไปสอบสวน: ส่งเรื่องสืบสวนไปที่ขั้นตอนสอบสวน
  • ในขั้นตอนการส่งไปสอบสวน จะเหมือนกับเรื่องร้องเรียน คือแสดง Popup ให้เลือกว่าจะส่งบุคคลใดไปยังกระบวนการสอบสวนบ้าง
  • เมื่อส่งข้อมูลไปขั้นสอบสวน ระบบจะต้องสร้างเรื่องสอบสวนขึ้นมาโดยอัตโนมัติ และต้องสร้าง “ผลการพิจารณาทางวินัย” ที่เชื่อมโยงกับเรื่องสอบสวน
  • ผลการพิจารณาทางวินัย คือรายการบทสรุปของเรื่องสอบสวน ไม่ว่าจะยุติเรื่องหรือลงโทษ ต้องแสดงผลการพิจารณาในหน้านี้ กรณีที่มีการลงโทษ จะเป็นการส่งคนไปออกคำสั่งลงโทษจากหน้านี้

UPDATE 2023-11-23

  • นอกจากฟิลด์ที่ให้ผู้ใช้กรอกแล้ว ต้องมีฟิลด์ซ่อนดังนี้
  • สถานะเรื่องสืบสวน: มีตัวเลือกดังต่อไปนี้ - ใหม่ (Default): เมื่อสร้างเรื่องสืบสวน - ยุติเรื่อง: กรณีเรื่องอยู่ในสถานะ “ใหม่” จะอนุญาตให้กดปุ่มยุติเรื่องได้ แต่หากสถานะเปลี่ยนเป็น “มีมูลส่งไปสอบสวนแล้ว” จะไม่สามารถยุติเรื่องได้ - มีมูลส่งไปสอบสวนแล้ว: ถ้าเรื่องสืบสวนนั้นมีมูล เจ้าหน้าที่วินัยต้องกดส่งไปสอบสวน เมื่อกดส่งแล้วเรื่องสืบสวนจะเปลี่ยนสถานะเป็น “มีมูลส่งไปสอบสวนแล้ว” และจะไม่มีการเปลี่ยนสถานะใด ๆ อีก
  • วันที่กรอกแบบฟอร์ม: วันที่ที่สร้างแบบฟอร์ม
  • วันที่แก้ไขแบบฟอร์ม: วันที่ที่แก้ไขแบบฟอร์ม

3. ระบบย่อย สอบสวน (DP3)

ผู้ใช้ระบบ

  1. เจ้าหน้าที่ระบบวินัย

ภาพรวมการทำงานของสอบสวน

  1. เจ้าหน้าที่ระบบวินัยส่งเรื่องสืบสวนมาที่ระบบสอบสวน
  2. เจ้าหน้าที่ระบบวินัย แก้ไขข้อมูลการสอบสวน และ/หรืออัปโหลดเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม
  3. กรณีมีคำสั่งให้พักราชการ หรือให้ออกจากราชการไว้ก่อน จะทำในขั้นตอนนี้
  4. เจ้าหน้าที่ระบบวินัย บันทึกผลการพิจารณาทางวินัยหรือยุติเรื่อง

รายละเอียดระบบสอบสวน

  • ข้อมูลการสอบสวนจะถูกสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ เมื่อมีการส่งเรื่องสืบสวนมาที่ระบบสอบสวน
  • ข้อมูลจากระบบเรื่องร้องเรียน และเรื่องสืบสวน จะถูกทำสำเนามายังระบบสอบสวนทั้งหมด การแก้ไขใด ๆ ในเรื่องร้องเรียนที่ระบบสอบสวน จะไม่กระทบข้อมูลเรื่องร้องเรียนกับเรื่องสืบสวนเดิมในระบบสืบสวน
  • ระบบต้องสามารถลิ้งก์ย้อนกลับไปยังเรื่องร้องเรียนและเรื่องสืบสวนเดิมได้

ฟอร์มเรื่องสอบสวน

  • ฟิลด์ที่นำมาจากเรื่องร้องเรียน
    • วันที่รับเรื่อง: แก้ไขไม่ได้
    • เรื่องร้องเรียน: แก้ไขไม่ได้ (TOR=6.9.3.1 (1) เรื่องร้องเรียนทางวินัย)
    • รายละเอียด: แก้ไขไม่ได้
    • ผู้ถูกร้องเรียน: แก้ไขไม่ได้
    • หน่วยงานที่พิจารณา: แก้ไขไม่ได้
    • ลักษณะความผิด: แก้ไขได้
    • ระดับการพิจารณา: แก้ไขไม่ได้
    • รับเรื่องร้องเรียนจาก: แก้ไขไม่ได้
    • ผู้ร้องเรียน: แก้ไขไม่ได้
    • เอกสารหลักฐานประกอบเรื่องร้องเรียน: แก้ไขไม่ได้
    • ผลการตรวจสอบเรื่องร้องเรียน: แก้ไขไม่ได้
  • ฟิลด์ที่นำมาจากเรื่องสืบสวน
    • ลักษณะการสืบสวน: แก้ไขไม่ได้
    • วันที่สืบสวน: แก้ไขไม่ได้
    • รายละเอียดการสืบสวน: แก้ไขไม่ได้
    • ผลการสืบสวนข้อเท็จจริง: แก้ไขไม่ได้
    • เอกสารประกอบอื่น ๆ: แก้ไขไม่ได้
    • รายชื่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาความผิดทางวินัย: แก้ไขไม่ได้
  • ฟิลด์เพิ่มเติมในระบบสอบสวน
    • วันที่สอบสวน (DatePicker): แบ่งเป็น 2 ฟิลด์ คือ วันที่เริ่มต้น กับ วันที่สิ้นสุด
      • เมื่อได้รับเรื่องสอบสวน ต้องกำหนดวันที่เริ่มต้น กับวันที่สิ้นสุด
      • ระบบจะยินยอมให้ขยายเวลาสอบสวนได้ (มีปุ่มให้กดขยายเวลา) (TOR=6.9.3.1 (4)) โดยให้เลือกเป็นจำนวนวัน
        • 15 วัน
        • 30 วัน
        • 45 วัน
        • 60 วัน
      • ระบบจะคำนวณวันที่ขยายให้โดยอัตโนมัติ โดยเลือกจากวันสิ้นสุด เช่น สิ้นสุด 30 เม.ย. ขยายเวลาอีก 15 วัน ก็จะสิ้นสุด 15 พ.ค.
      • ทุกครั้งที่มีการขยายเวลา ต้องเก็บประวัติไว้ด้วย เช่น
        • กำหนดวันสอบสวนครั้งแรก 1 เม.ย. - 30 เม.ย.
        • ขยายเวลา 15 วัน: สิ้นสุด 15 พ.ค.
        • ขยายเวลา 15 วัน: สิ้นสุด 30 พ.ค.
    • วันที่รับทราบข้อกล่าวหา (DatePicker): ใส่หรือไม่ก็ได้
    • วันที่มีคำสั่งให้สอบสวน (DatePicker): (TOR=6.9.3.1 (3)) ใส่หรือไม่ก็ได้
    • วันที่สรุปพยานหลักฐาน (DatePicker): ใส่หรือไม่ก็ได้
    • วันที่รายงานผลการสอบสวน (DatePicker): (TOR=6.9.3.1 (5))
    • รายชื่อกรรมการเพื่อพิจารณาความผิดทางวินัย: เป็นกรรมการคนละชุดกับตอนสืบสวน เมื่อสร้างเรื่องสอบสวนครั้งแรก รายชื่อกรรมการเหล่านี้จะเว้นว่างไว้
    • กรณีความผิด (TextArea): กรอกหรือไม่ก็ได้ (TOR=6.9.3.1 (2))
    • สอบสวนที่ (TextArea): กรอกหรือไม่ก็ได้
    • ระดับโทษความผิด: (TOR=6.9.3.1 (9))
      • ไม่ร้ายแรง: กรณีไม่ร้ายแรงจะมีทางเลือก
        • ภาคทัณฑ์
        • ตัดเงินเดือน
        • ลดขั้นเงินเดือน
      • ร้ายแรง: กรณีร้ายแรงจะมีทางเลือก
        • ปลดออก
        • ไล่ออก
    • อ้างอิงมาตราตามกฎหมาย: กรอกหรือไม่ก็ได้ (TOR=6.9.3.1 (10))
    • สรุปพยานหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหา: กรอกหรือไม่ก็ได้
      • อัปโหลดเอกสารสรุปพยานหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหา: อัปโหลดหรือไม่ก็ได้
    • บันทึกถ้อยคำของผู้กล่าวหา: กรอกหรือไม่ก็ได้
      • อัปโหลดเอกสารบันทึกถ้อยคำของผู้กล่าวหา: อัปโหลดหรือไม่ก็ได้
    • พยานและบันทึกถ้อยคำพยาน: กรอกหรือไม่ก็ได้
      • อัปโหลดพยานและบันทึกถ้อยคำพยาน: อัปโหลดหรือไม่ก็ได้
    • ผลการสอบสวน: (TOR=6.9.3.1 (6)) กรอกหรือไม่ก็ได้
    • ผลการพิจารณาความผิดทางวินัย: (TOR=6.9.3.8)
      • ผลการพิจารณาความผิดทางวินัยจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่ให้เลือกสถานะ กับส่วนที่ให้กรอกข้อความ
      • ส่วนที่เป็นสถานะ จะเป็น Dropdown ให้เลือก
        • ยังไม่ระบุ (Default)
        • มีมูล: มีให้เลือกเพิ่มเติม
          • ร้ายแรง
          • ไม่ร้ายแรง
        • ไม่มีมูล: ให้ยุติเรื่อง
      • ส่วนที่เป็นการกรอกข้อความ ประกอบด้วยช่องกรอกข้อความ และอัปโหลดเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวน เช่น รายงานผลการสอบสวน
    • อัปโหลดเอกสารหลักฐานอื่น ๆ: อัปโหลดหรือไม่ก็ได้

ข้อมูลอื่น ๆ ในหน้าสอบสวน

  • มีปุ่มให้ยุติเรื่อง หรือส่งไปที่ข้อมูลไปที่ผลการพิจารณาความผิดทางวินัย
  • มีปุ่มให้ส่งรายชื่อไปออกคำสั่งพักราชการ/ให้ออกจากราชการไว้ก่อน

UPDATE 2023-12-14

  • ในหน้าสืบสวน และสอบสวน มีปุ่มให้ส่งรายชื่อคนไปออกคำสั่งยุติเรื่อง

4. ระบบย่อย พักราชการ (DP4)

ผู้ใช้ระบบ

  1. เจ้าหน้าที่ระบบวินัย
  2. การเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน
  3. สกจ.

การทำงานของระบบพักราชการ

  • ไส้ในของระบบพักราชการคือการออกคำสั่งพักราชการ/ให้ออกจากราชการไว้ก่อน
  • ระบบสอบสวนจะส่งรายชื่อไปรอไว้ในหน้ารายชื่อผู้ถูกพักราชการ/ให้ออกจากราชการไว้ก่อน
  • เข้าไปที่รายชื่อ หน้านี้จะต้องให้ระบุข้อมูลต่าง ๆ ดังนี้
    • กรณีหรือเหตุที่ถูกสั่งพักราชการ
    • วันที่สั่งพักราชการ/ให้ออกจากราชการไว้ก่อน
    • วันสิ้นสุดการสั่งพักราชการ/ให้ออกจากราชการไว้ก่อน
  • ในหน้ารายชื่อนี้ ต้องสามารถแสดงชื่อ สกุล ตำแหน่ง ระดับได้
  • ในหน้ารายชื่อนี้ ต้องสามารถสืบค้นจาก
    • ชื่อ-สกุล
    • ตำแหน่ง
    • ระดับ
    • เหตุที่ถูกสั่งพักราชการ/ออกจากราชการไว้ก่อน
    • วันที่สั่งพักราชการ/ให้ออกจากราชการไว้ก่อน
    • วันสิ้นสุดการสั่งพักราชการ/ให้ออกจากราชการไว้ก่อน
  • ในหน้ารายชื่อนี้ สามารถเลือกรายชื่อเพื่อส่งไปรอออกคำสั่งได้ โดยข้อมูลเหตุ วันที่สั่งพัก วันสิ้นสุด ต้องตามไปรอออกคำสั่งด้วย
  • จากนั้นทำที่ระบบออกคำสั่งตามปกติ

5. ระบบย่อย ผลการพิจารณาความผิดทางวินัย (DP5)

ผู้ใช้ระบบ

  1. เจ้าหน้าที่ระบบวินัย

การทำงานของระบบผลการพิจารณาความผิดทางวินัย

  • ระบบนี้เป็นส่วนเพิ่มเติมจากระบบสอบสวน ในระบบสอบสวนเมื่อกรอกข้อมูลที่จำเป็นครบถ้วนแล้ว จะต้องมีปุ่มให้กดส่งมาที่ผลการพิจารณาความผิดทางวินัย
  • การแสดงผลต่าง ๆ จะเหมือนกับในหน้าสอบสวน แต่ข้อมูลต่าง ๆ จากเรื่องร้องเรียน สืบสวน สอบสวน จะไม่สามารถแก้ไขได้
  • มีแท็บผลการพิจารณาความผิดทางวินัย ไว้ให้กรอกข้อมูลและอัปโหลดไฟล์เพิ่มเติม
    • ประเภทวินัย = ลักษณะความผิด ร้ายแรง/ไม่ร้ายแรง/ยุติเรื่อง
    • ประเภทของเรื่อง = ทุจริต ละทิ้งการปฏิบัติราชการ ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ทะเลาะวิวาท ประพฤติตนไม่เหมาะสม มีสัมพันธ์เชิงชู้สาว กระทำอนาจาร ประมาณนี้ (กรณีความผิด)
    • หน่วยงาน/ส่วนราชการ
    • ปีงบประมาณ
  • เวลานำเข้า จะต้องระบุประเภทวินัย ประเภทของเรื่อง หน่วยงาน/ส่วนราชการ ปีงบประมาณที่เกิดเรื่องในตัวเรื่อง แล้วเวลาค้นก็ไปฟิลเตอร์ในแต่ละเงื่อนไขที่อยากค้นหา
  • ค้นหาจากรายการผลการพิจารณาความผิดทางวินัยได้
  • มีปุ่มให้กดส่งคนไปรอออกคำสั่ง

6. ระบบย่อย ออกคำสั่งลงโทษทางวินัย (DP6)

  • คำสั่งลงโทษทางวินัย มีทั้งสิ้น 5 คำสั่ง
    • ภาคทัณฑ์
    • ตัดเงินเดือน
    • ลดขั้นเงินเดือน
    • ปลดออกจากราชการ
    • ไล่ออกจากราชการ
  • คำสั่งงดโทษ
  • คำสั่งเพิ่มโทษ
  • คำสั่งยุติเรื่อง
  • รายการคำสั่งลงโทษทางวินัย ต้องมีฟิลด์ต่าง ๆ แสดงดังต่อไปนี้
    • ลำดับ
    • ระดับความผิด
    • เลขที่คำสั่ง
    • สั่ง ณ วันที่
    • กรณีความผิด
    • รายชื่อผู้ที่ถูกลงโทษทางวินัย
    • ผลดำเนินการพิจารณา
    • อ้างอิงมาตราตามกฎหมาย

7. ระบบย่อย อุทธรณ์/ร้องทุกข์ (DP7)

ผู้ใช้ระบบ

  1. ข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญและลูกจ้างประจำกรุงเทพมหานคร
  2. กองพิทักษ์คุณธรรม (กพค.)
  3. สำนักงานการเจ้าหน้าที่ (สกจ.)

ภาพรวม

  • ระบบย่อยอุทธรณ์/ร้องทุกข์แบ่งเป็น 2 ส่วน
    • อุทธรณ์: กรณีที่ข้าราชการกรุงเทพฯ ได้รับโทษทางวินัย สามารถมายื่นอุทธรณ์ที่ กพค.​ได้
    • ร้องทุกข์: กรณีที่ข้าราชการกรุงเทพฯ มีเรื่องอึดอัดคับข้องใจ หรือไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถมาร้องทุกข์ที่ กพค. ได้
  • กรณีลูกจ้างประจำกรุงเทพมหานคร เรื่องอุทธรณ์/ร้องทุกข์ จะส่งไปที่ สกจ.
  • ระบบการทำงานของ กพค. กับ TOR ระบบอุทธรณ์/ร้องทุกข์ ยังไม่เอื้อให้ใช้ประโยชน์ตาม Workflow การทำงานของ กพค. ได้ เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายรองรับ ดังนั้นระบบการทำงานของอุทธรณ์/ร้องทุกข์ จึงต้องปรับให้เป็นระบบเอื้อการทำงานของ กพค. แทน

การทำงานระบบอุทธรณ์/ร้องทุกข์ - ฝั่งผู้ใช้งาน

  1. ข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญหรือลูกจ้างประจำกรุงเทพมหานคร เข้าสู่ระบบบริการเจ้าของข้อมูลบุคคล
  2. เลือกเมนู “อุทธรณ์/ร้องทุกข์”
  3. ระบบจะแสดงรายการอุทธรณ์/ร้องทุกข์ ในหน้ารายการนี้ให้ฟิลเตอร์ได้ว่าเป็นรายการอุทธรณ์ หรือรายการร้องทุกข์ เรียงตามลำดับเวลาที่อัปเดตล่าสุด
  4. กรณีต้องการอุทธรณ์หรือร้องทุกข์ คลิกที่ปุ่ม ”+” ระบบจะแสดง Popup Menu ให้เลือกว่าจะ “อุทธรณ์” หรือ “ร้องทุกข์”
  5. ระบบจะแสดงแบบฟอร์มให้กรอกข้อมูลอุทธรณ์/ร้องทุกข์ ฟิลด์เบื้องต้นทั้งอุทธรณ์และร้องทุกข์ประกอบด้วย
    • เรื่องที่จะอุทธรณ์/ร้องทุกข์
    • รายละเอียดเรื่องร้องทุกข์
    • อัปโหลดเอกสารหลักฐานที่มี
  6. ฟิลด์อื่น ๆ ที่ระบบต้องมีเพิ่มเติมได้แก่
    • ปีงบประมาณ
    • ประเภทคดี
    • คดีเลขที่
    • ชื่อ-นามสกุลผู้ยื่นอุทธณ์/ร้องทุกข์
    • เลขประจำตัวประชาชน
    • UserID
    • วันที่สร้าง
    • สถานะของคำร้อง
  7. เมื่อกรอกแบบฟอร์มเสร็จสิ้น ระบบจะให้ผู้ใช้งานบันทึกข้อมูล
  8. ระบบจะสร้าง “สร้าง Record” ของการอุทธรณ์/ร้องทุกข์ขึ้นมา โดยผู้ใช้งานจะเป็นเจ้าของ Record นี้ (ผูกกับเลข 13 หลักและ User ID) แต่จะไม่สามารถแก้ไขข้อมูลใด ๆ ได้อีก
  9. เมื่อผู้ใช้งานบันทึกฟอร์มแล้ว ระบบต้องแจ้งเตือน กพค./สกจ. ด้วยระบบแจ้งเตือนผ่านหน้าเว็บและอีเมล
  10. สำคัญมาก เมื่อบันทึกฟอร์มแล้ว ระบบต้องแสดงให้ผู้อุทธรณ์/ร้องทุกข์เห็นอย่างชัดเจนว่า คำอุทธรณ์/ร้องทุกข์นี้จะยังไม่สมบูรณ์ จนกว่าผู้อุทธรณ์/ร้องทุกข์ จะ “Print แบบฟอร์มคำร้อง” จากระบบ พร้อมเอกสารหลักฐานทั้งหมดเป็น Hard Copy แล้วส่งไปรษณีย์ให้ กพค. หรือ นำเอกสารทั้งหมดไปส่งด้วยตนเองที่ชั้น 14 อาคารศรีจุลทรัพย์
  11. เมื่อผู้ใช้เลือก “Print แบบฟอร์มคำร้อง” ระบบจะนำข้อมูลที่ผู้ใช้กรอกมาสร้างเป็นไฟล์ docx/pdf ตาม Template ที่ กพค. กำหนด
  12. กรณีผู้อุทธรณ์/ร้องทุกข์เป็น “ข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ” คำร้องนี้จะไปปรากฏในหน้าของ กพค.
  13. กรณีผู้อุทธรณ์/ร้องทุกข์เป็น​ “ลูกจ้างประจำกรุงเทพมหานคร” คำร้องนี้จะไปปรากฏในหน้าของ สกจ.
  14. ฝั่งผู้ใช้งานจะไม่สามารถทำอะไรกับการอุทธรณ์/ร้องทุกข์นี้ได้อีก นอกจากดูประวัติการอัปเดตสถานะที่จะเกิดขึ้นจากฝั่ง กพค.

การทำงานของระบบอุทธรณ์/ร้องทุกข์ - ฝั่ง กพค. และ สกจ.

  1. การทำงานในฝั่ง กพค. จะเกิดขึ้นได้ 2 กรณี
    • กรณีที่ผู้ร้องทุกข์กรอกแบบฟอร์มมาจากระบบบริการเจ้าของข้อมูลบุคคล คำร้องนี้จะขึ้นในหน้าของ กพค. โดยอัตโนมัติและ กพค. จะได้รับการแจ้งเตือน แต่ กพค. จะไม่ดำเนินการใด ๆ จนกว่าผู้ร้องจะส่งเอกสารทางไปรษณีย์หรือมาส่งด้วยตนเอง
    • กรณีที่เป็นเรื่องเก่าก่อนที่ระบบนี้จะเริ่มใช้งาน หรือกรณีที่ผู้ใช้งานร้องทุกข์นอกระบบ แต่ต้องการนำเรื่องเข้าระบบ ในหน้ารายการคำร้องของ กพค. จะมีปุ่ม ”+” ให้เพิ่มคำร้องได้ แบบฟอร์มคำร้องจะเหมือนกับในหน้าบริการเจ้าของข้อมูลบุคคล แต่ กพค. จะต้องค้นหาเลขบัตร 13 หลักจากระบบทะเบียนประวัติมาผูกกับคำร้องได้ กรณีนี้เมื่อผู้ร้องเข้าไปที่ระบบบริการเจ้าของข้อมูลบุคคล คำร้องที่ กพค. สร้างจะปรากฏในหน้ารายการอุทธรณ์/ร้องทุกข์ด้วย
  2. หน้ารายการคำร้อง
    • สามารถฟิลเตอร์ตามประเภทอุทธรณ์ หรือร้องทุกข์ได้
    • มี Dropdown ให้เลือกแสดงคำร้องเฉพาะปีงบประมาณได้
    • มี Dropdown ให้เลือกแสดงตามสถานะได้
    • Sort ตามสถานะที่อัปเดตล่าสุด
  3. สถานะของคำร้องมีดังนี้
    • ใหม่
    • ได้รับเอกสารแล้ว
    • รับอุทธรณ์/ร้องทุกข์
    • ไม่รับอุทธรณ์/ร้องทุกข์
    • ตั้งองค์คณะวินิจฉัย
    • สรุปผลการพิจารณา
    • ปิดคำร้อง
  4. เมื่อแก้สถานะ ต้องเก็บประวัติการแก้ทุกครั้ง โดยต้องบันทึกวันเดือนปีที่แก้ไข สถานะเดิม สถานะใหม่ ผู้แก้ไข
  5. เมื่อแก้สถานะ ระบบต้องส่งแจ้งเตือนไปยังผู้อุทธรณ์/ร้องทุกข์ทางระบบบริการเจ้าของข้อมูลบุคคล และทางอีเมล
  6. กพค./สกจ. สามารถแก้ไขข้อมูลการอุทธรณ์ร้องทุกข์ได้ดังต่อไปนี้
    • สถานะของคำร้อง
    • ประเภทคดี
    • คดีเลขที่
    • เรื่อง
    • หมายเหตุ
    • อัปโหลดเอกสารเพิ่มเติม
  7. ระบบต้องสืบค้นคำอุทธรณ์/ร้องทุกข์ได้จากฟิลด์ต่าง ๆ ดังนี้
    • ประเภทคดี
    • คดีเลขที่
    • เรื่อง
    • ชื่อ-นามสกุลผู้อุทธรณ์/ร้องทุกข์
    • เลขประจำตัวประชาชน
    • ปีงบประมาณ

8. ระบบย่อย ข้อมูลพื้นฐาน (DP8)

ผู้ใช้ระบบ

  1. แอดมิน (ผู้ดูแล/เจ้าหน้าที่ระบบวินัย)

ภาพรวมการทำงาน

แก้ไขกรรมการ

  • ระบบต้องเพิ่ม ลบ แก้ไขข้อมูลกรรมการได้
  • กรณีเพิ่ม ฟิลด์ที่จำเป็นประกอบด้วย
    • คำนำหน้า
    • ชื่อ
    • นามสกุล
    • ตำแหน่ง
    • เบอร์ติดต่อ
    • อีเมล

แก้ไขช่องทางการร้องเรียน

  • ระบบต้องเพิ่ม ลบ แก้ไขช่องทางการร้องเรียนได้
  • ฟิลด์ที่จำเป็นประกอบด้วย
    • ชื่อช่องทางการร้องเรียน