หน้าแรก

วันพุธที่ 6 กันยายน 2566
สถานที่ณ ห้องประชุมสำนักงาน ก.ก. 3 (กองสรรหาบุคคล) ชั้น 5 ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)
  • กรณีเกิดวินัย อำนาจการพิจารณาอยู่ที่ “ผู้มีอำนาจสั่งบรรจุ”
  • เช่น ถ้าผู้ถูกร้องเป็นข้าราชการชำนาญการพิเศษกับอาวุโสขึ้นไป ถือเป็นอำนาจปลัด แต่ถ้าเป็น ผอ.สูงขึ้นไปให้เป็นอำนาจผู้ว่าฯ
  • เวลาสอบสวน ใช้ตำแหน่งปัจจุบัน เช่น ตอนทำผิดเป็นข้าราชการชำนาญการ แต่ตอนสอบสวนเป็น ผอ.สูง ก็ถือเป็นอำนาจผู้ว่าฯ
  • กรณีถ้ามีผู้ทำผิดหลายคน ให้ถือคนที่ระดับสูงสุด เช่น คนทำผิดมี 5 คน ผอ.เขต ผู้ช่วย หัวหน้าฝ่าย หัวหน้างาน ข้าราชการธรรมดา อำนาจแต่ละคนคือ ผู้ว่าฯ ปลัด ผอ.เขต ผอ.สำนัก ดังนั้น ตอนพิจารณาเอามารวมกัน เป็นอำนาจผู้ว่าฯ แต่เวลาลงโทษ ให้ลงโทษตามอำนาจของแต่ละคน
  • ในการดำเนินการทางวินัย ทั้งข้าราชการและลูกจ้างเป็นอำนาจของผู้มีอำนาจสั่งบรรจุ (กรณีลูกจ้างก็คือ ผอ.เขต หรือ ผอ.สำนัก) แต่ถ้าอำนาจการรีวิว (ตรวจสอบ ดำเนินการ) ถ้าข้าราชการจะเป็น กก. ลูกจ้างจะเป็น สกจ. เพราะ สกจ. จะเป็นผู้รายงานตรงต่อปลัด
  • อำนาจการรีวิวไม่อยู่ใน TOR
  • ฟอร์มเพิ่มเรื่องร้องเรียน
    • เจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน ทำได้เฉพาะในหน่วยงานตัวเอง
    • เจ้าหน้าที่จาก สกจ. ทำได้หมดไม่ว่าจะหน่วยงานไหน
    • ถ้าผู้ถูกร้องเป็นชำนาญการพิเศษขึ้นไป ต้องเป็น สกจ. ทำเรื่องเท่านั้น
    • มีฟิลด์ “ผู้ถูกร้องเรียน”: (Dropdown) ระบุว่าใครคือผู้ที่ถูกร้องเรียนในเรื่องนั้น
      • บุคคล (มีช่องให้เลือกรายชื่อจากทะเบียนประวัติ)
      • หน่วยงาน (มีช่องให้เลือกสำนักงาน)
      • กรุงเทพมหานคร
      • ถ้าฟิลด์ “ผู้ถูกร้องเรียน” เลือกเป็นหน่วยงาน ระบบจะต้องแสดงโครงสร้างให้ผู้ใช้งานเลือกว่าเป็นหน่วยงานไหน (สำนักงานเขต/สำนักต่าง ๆ )
    • มีฟิลด์ “หน่วยงานที่พิจารณา”: (Dropdown) จะเปลี่ยนไปตามผู้ถูกร้อง
      • ถ้าผู้กรอกกับผู้ถูกร้องเป็นคนในหน่วยงานเดียวกัน ก็คือเขตหรือสำนักตัวเอง
      • แต่ถ้าผู้ถูกร้องเป็นคนในหน่วยงานอื่น หรือมีตำแหน่งชำนาญการพิเศษ หรืออาวุโสขึ้นไป ต้องเป็น สกจ.
      • กรณีที่ร้องเป็นกลุ่มแบบข้ามเขต/หน่วยงาน ต้องส่งไป สกจ. เท่านั้น
    • มีฟิลด์ “เรื่อง”: (TextArea) เรื่องที่ร้องเรียน
    • มีฟิลด์ “รายละเอียด”: (TextArea) รายละเอียดของเรื่องร้องเรียน
    • มีฟิลด์ “วันที่รับเรื่อง”: (DatePicker) เป็นวันที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของวินัยนั้น ๆ (เป็นคนละฟิลด์กับวันที่ที่กรอกแบบฟอร์ม ระบบจะสนใจที่วันที่รับเรื่อง ไม่สนใจว่ากรอกฟอร์มเวลาไหน)
    • มีฟิลด์ “ลักษณะความผิด”: (Dropdown) ปกติฟิลด์นี้ตอนรับเรื่องจะยังกำหนดไม่ได้ ดังนั้นตัวเลือกจะเป็น
      • ยังไม่ระบุ
      • ไม่ร้ายแรง
      • ร้ายแรง
    • มีฟิลด์ “ระดับการพิจารณา”: (Dropdown) ตามปกติ ภายหลังจากรับเรื่องร้องเรียน จะมีเวลา 45 วันในการทำเรื่องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ว่าจะดำเนินการต่อ หรือยุติ ปกติความด่วนจะไม่แน่นอน ถ้าเป็น ปปช. จะ 30 วัน แต่ 15 วันก็มี แยกเป็นกรณีไป ดังนั้นในที่นี้จะระบุแค่
      • ปกติ
      • ด่วน
      • ด่วนมาก
    • มีฟิลด์​ “วันที่กำหนดพิจารณา”: (DatePicker) คือฟิลด์สำหรับกำหนด Deadline ที่มีไว้เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ให้รีบทำเรื่องให้เสร็จภายในวันที่กำหนด ระบบจะ Default ให้ตาม “ระดับการพิจารณา” (45, 30, 15) แต่สามารถแก้ไขเองได้หรือจะปล่อยว่างไว้ก็ได้
    • มีฟิลด์​ “วันแจ้งเตือนล่วงหน้า”: (DatePicker) นับว่าให้แจ้งเตือนกี่วัน ก่อนจะถึงวันที่กำหนดพิจารณา
    • มีฟิลด์ “รับเรื่องร้องเรียนจาก”: (Dropdown) ไว้ระบุว่ารับเรื่องมาจากใคร/หน่วยงานไหน
      • สตง.
      • ปปช.
      • ปปท.
      • จดหมาย
      • อีเมล
      • โทรศัพท์
      • บอกกล่าว
    • มีฟิลด์ “ผู้ร้องเรียน”: (TextArea) ให้กรอกรายละเอียดผู้ร้องเรียนอย่างอิสระ
    • มีฟิลด์ “ไฟล์เอกสารหลักฐาน”: ไว้อัปโหลดไฟล์ที่จำเป็น
      • เจ้าหน้าที่ผู้สร้างแบบฟอร์มเท่านั้นที่เห็นไฟล์ตัวเอง คนอื่นจะไม่เห็น แม้จะเป็นเจ้าหน้าที่ระบบวินัยเหมือนกัน
      • ผู้บังคับบัญชาตามลำดับถ้ามีสิทธิ์เข้าระบบวินัย จะเห็นไฟล์นี้ได้เช่นกัน
  • ฐานข้อมูลบุคคลที่จะเป็นกรรมการ
    • ใส่ข้อมูลกรรมการไว้ให้เลือกตอนสืบสวน/สอบสวนข้อเท็จจริง
    • กรรมการจะเลือกมาจากรายชื่อทะเบียนประวัติ หรือเป็นคนนอกก็ได้
    • ฟิลด์ต่าง ๆ ในฐานข้อมูลประกอบด้วย
      • คำนำหน้า
      • ชื่อ
      • นามสกุล
      • ตำแหน่ง
      • เบอร์ติดต่อ
      • อีเมล
    • ตอนเลือกตัวกรรมการไปที่เรื่องสืบสวน ค่อยกำหนดหน้าที่ในเรื่องนั้น ประกอบด้วย
      • ประธาน
      • เลขานุการ
      • ผู้ช่วยเลขานุการ
      • กรรมการ
    • กรรมการแต่ละคนให้เก็บประวัติไว้ด้วยว่า ขณะนี้กรรมการแต่ละคนมีเรื่องอยู่ในมือจำนวนกี่เรื่อง เพื่อดูว่ากรรมการคนนั้นว่างอยู่หรือไม่ แต่ไม่จำเป็นต้องแสดงว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาได้เป็นกรรมการไปแล้วกี่เรื่อง เพราะสิ่งที่ต้องการดูจริง ๆ คือ “จำนวนเรื่องสืบสวนที่อยู่ในมือ”
  • สืบสวนข้อเท็จจริง
    • ฟิลด์ “เรื่องร้องเรียน”: เลือกเรื่องร้องเรียนจากรายการเรื่องร้องเรียนที่ยัง active อยู่
    • ฟิลด์ “ลักษณะความผิด”: (Dropdown) เป็นข้อมูลที่มาจากเรื่องร้องเรียน แต่สามารถเปลี่ยนทีหลังได้ ประกอบด้วย
      • ยังไม่ระบุ
      • ไม่ร้ายแรง
      • ร้ายแรง
    • ฟิลด์ “ลักษณะการสืบสวน”: (Dropdown)
      • แต่งตั้งกรรมการสืบสวน
      • สืบสวนทางลับ
      • อื่น ๆ
    • ฟิลด์ “วันที่สืบสวน”: (DatePicker) แบ่งเป็น 2 ฟิลด์ วันที่เริ่มต้น - วันที่สิ้นสุด
      • กรณีมีการขยายเวลา ให้เลือกเป็นจำนวนวัน
        • 15 วัน
        • 30 วัน
        • 45 วัน
        • 60 วัน
      • ระบบจะคำนวณวันให้อัตโนมัติ โดยเลือกจากวันสิ้นสุด เช่น สิ้นสุด 30 เม.ย. ขยายเวลาอีก 15 วัน ก็จะสิ้นสุด 15 พ.ค.
      • เอามาแสดงเป็นปฏิทินให้เห็น ว่าเรื่องนี้ รับเรื่องมาเมื่อไหร่ เริ่มต้นสืบสวนเมื่อไหร่ถึงเมื่อไหร่ มีการขยายเวลาครั้งแรกเมื่อไหร่ จุดมุ่งหมายของปฏิทินคือต้องการเห็นภาพรวมของวินัยเรื่องนั้น ๆ
    • ฟิลด์ “รายละเอียดเรื่องร้องเรียน”: (TextArea) นำมาจากเรื่องร้องเรียน
    • ฟิลด์ “รายละเอียด”: (TextArea) กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับการสืบสวน
    • ฟิลด์​ “ไฟล์เอกสารหลักฐานเรื่องร้องเรียน”: ให้อัปโหลดเอกสารต่าง ๆ ได้
    • ฟิลด์ “สถานะ”: (Text) (น่าจะเปลี่ยนชื่อฟิลด์เป็น “ผลการสืบสวน”) ประกอบด้วย
      • ยังไม่ระบุ
      • มีมูล: ร้ายแรง, ไม่ร้ายแรง
      • ไม่มีมูล: ยุติเรื่อง
    • มีปุ่มให้ยืนยันผล ว่า มีมูล: วินัยร้ายแรง, มีมูล: วินัยไม่ร้ายแรง, ไม่มีมูล: ยุติเรื่อง
    • กรณีไม่มีมูลสามารถยุติเรื่องได้
    • กรรมการในชั้นสืบสวน จะสิ้นสุดที่ชั้นนี้ ไม่ไปที่ชั้นสอบสวน
  • สอบสวน
    • ฟิลด์ “เรื่องร้อนเรียน”: ดึงมาจากเรื่องร้องเรียน
    • ฟิลด์ “วันที่สอบสวน”: (DatePicker)
    • ฟิลด์ “วันที่รับทราบข้อกล่าวหา”: (DatePicker) เจ้าหน้าที่เป็นคนลงรายละเอียด
    • ฟิลด์ “วันที่สรุปพยานหลักฐาน”: (DatePicker) เจ้าหน้าที่เป็นคนลงรายละเอียด
    • ฟิลด์ “กรรมการ”: เลือกกรรมการจากฐานกรรมการ (คนละชุดกับสืบสวน)
    • ฟิลด์ “กรณีความผิด”: กรอกหรือไม่ก็ได้
    • ฟิลด์ “สอบสวนที่”: กรอกหรือไม่ก็ได้
    • ฟิลด์ “ลักษณะความผิด”: นำมาจากสืบสวน
    • ฟิลด์ “ระดับโทษความผิด”: กรอกหรือไม่ก็ได้
      • ไม่ร้ายแรง: ภาคทัณฑ์, ตัดเงินเดือน, ลดขั้นเงินเดือน
      • ร้ายแรง: ปลดออก, ไล่ออก
    • ฟิลด์ “อ้างอิงมาตราตามกฎหมาย”: กรอกหรือไม่ก็ได้
    • ฟิลด์ “รายละเอียดเรื่องร้องเรียน”: นำมาจากเรื่องร้องเรียน
    • ฟิลด์ “รายละเอียดสืบสวนข้อเท็จจริง”: นำมาจากสืบสวนข้อเท็จจริง
    • ฟิลด์ “สรุปพยานหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหา”: กรอกหรือไม่ก็ได้
    • อัปโหลดเอกสารสรุปพยานหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหา
    • ฟิลด์ “บันทึกถ้อยคำของผู้กล่าวหา”: กรอกหรือไม่ก็ได้
    • อัปโหลดเอกสารบันทึกถ้อยคำของผู้กล่าวหา
    • ฟิลด์ “พยานและบันทึกถ้อยคำพยาน”: กรอกหรือไม่ก็ได้
    • อัปโหลดพยานและบันทึกถ้อยคำพยาน
    • ฟิลด์ “ผลการสอบสวน”: กรอกหรือไม่ก็ได้
    • อัปโหลดเอกสารหลักฐานอื่น ๆ
  • กรณีรีวิว (บันทึกไว้อ้างอิง เนื่องจากไม่อยู่ใน ​TOR และไม่ต้องทำ) เรื่องที่อยู่ในชั้นตั้งแต่สอบสวนจะมองเห็น แม้จะยุติเรื่องแล้วก็ตาม
    • กก. จะเห็นข้าราชการทุกคน ตรวจสอบได้ทั้งกระบวนการ
    • สกจ. จะเห็นลูกจ้างประจำ ตรวจสอบได้ทั้งกระบวนการ
    • เขต จะเห็นลูกจ้างประจำของเขตตัวเอง
  • ออกคำสั่ง
    • เมื่อสอบสวนเสร็จ ส่งไปออกคำสั่ง
    • กระบวนการสอบสวนอาจจะมีหรือไม่มีคำสั่งก็ได้ เช่น คำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนสำหรับการสอบสวนวินัยร้ายแรง
    • ออกคำสั่งกลับเข้ารับราชการ อาจมีให้กลับได้ระหว่างสอบสวน ขึ้นกับกรณีไป
    • ต้องการรายละเอียดคำสั่งต่าง ๆ ภาคทัณฑ์ งดโทษ ฯลฯ
  • อุทธรณ์ร้องทุกข์: สำหรับเจ้าตัวที่ถูกลงโทษ จะอยู่นอกส่วนดำเนินการทางวินัย ต้องเป็นเจ้าหน้าที่นิติกรของกองพิทักษ์ระบบคุณธรรม - รอเก็บ Req. เพิ่มเติม