หน้าแรก

วันพฤหัสบดีที่ 7 กันยายน 2566
สถานที่ณ ห้องประชุมสำนักงาน ก.ก. 3 (กองสรรหาบุคคล) ชั้น 5 ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)
  • การประเมินนี้ คือการประเมินเลื่อนระดับเป็นชำนาญการ และชำนาญการพิเศษ
  • ไม่มีรอบการยื่นขอประเมิน เป็นเรื่องส่วนบุคคล ใครอยากประเมินก็มายื่นขอประเมินได้
  • ผู้ขอประเมินจะต้องรู้ว่าตัวเองมีคุณสมบัติหรือเปล่า โดยดูจากคู่มือ หรือให้นักทรัพยากรบุคคลช่วยตรวจ
  • เมื่อรู้ว่าตัวเองมีคุณสมบัติ ผู้ขอประเมินจะไปดำเนินการต่อ ทำเอกสาร ทำรูปเล่ม ฯลฯ
  • จากนั้น ส่งเอกสารที่จำเป็นให้ สกจ. ตรวจสอบ
  • การทำงานแบบเดิม ผู้ขอประเมินจะต้องไปสอบถามการเจ้าหน้าที่เอง
  • ในระบบใหม่จะมีเครื่องมือที่เอื้อในการกรอกข้อมูล แต่การติดต่อต่าง ๆ ส่วนใหญ่ยังต้องดำเนินการเองนอกระบบ
    • เมื่อผู้ขอประเมินต้องการประเมิน ต้องไปตรวจสอบคุณสมบัติด้วยตนเอง และยืนยันกับการเจ้าหน้าที่ภายนอกระบบ
    • จากนั้นมากรอกแบบฟอร์ม ยื่นคำขอ
    • การเจ้าหน้าที่จะเห็นแบบฟอร์ม ตรวจสอบคุณสมบัติ แล้วยืนยันว่าคุณสมบัติผ่าน
    • ผู้ขอประเมินจะรับทราบผลการตรวจสอบ
  • สิ่งที่ระบบจะต้องทำในกระบวนการก่อนหน้านี้ คือระบบจะต้องช่วยให้เจ้าตัวตรวจสอบคุณสมบัติตัวเองได้ ด้วยการเอาเอกสารคุณสมบัติ/หลักเกณฑ์มาแสดงไว้ให้ผู้จะประเมินมาดูได้
    • ระบบควรจะเอาคู่มือเหล่านี้มาแสดง แล้ว matching เบื้องต้นให้ เท่าที่จะทำได้
    • บริษัทต้องการคู่มือหลักเกณฑ์การประเมินเพื่อมานำเข้าระบบ
  • กรณีการตรวจกับ กพ. น่าจะทำได้แค่ลิ้งก์ไปที่ กพ. (กรณีนี้ต้องตรวจสอบก่อนว่า กพ. มีข้อมูลให้หรือไม่)
  • ผู้ขอประเมินจะส่งเอกสาร 2 เล่ม เล่มแรกคือแบบรายการคำขอ เล่มสองคือผลงาน
  • เมื่อส่งเอกสารเล่มแรก ทางการเจ้าหน้าที่จะต้องทำประกาศบนเว็บเป็นระยะเวลา 30 วัน
  • การทำประกาศ ระบบจะทำเป็นหน้า public url ให้เอาลิ้งก์ไปแสดงได้ (อาจรวมเป็นเว็บเดียวกับระบบเผยแพร่ผลงานในข้อ 6.12.4)
  • เมื่อครบ 30 วันและไม่มีการคัดค้าน การเจ้าหน้าที่จะแจ้งผู้ขอประเมินว่าไม่มีการคัดค้าน (notification) ผู้ขอประเมินสามารถดำเนินการทำเล่ม 2 ต่อได้เลย
  • การยื่นขอผลงาน เมื่อผู้ขอประเมินส่งเอกสารแล้ว การเจ้าหน้าที่จะต้องส่งเอกสารนั้นให้กับหัวหน้าหรือผู้บังคับบัญชาของผู้ประเมินเซ็นรับทราบด้วย
  • กรณีนี้จะใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ในอนาคต แต่ถ้าลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ไม่พร้อม ให้ใช้วิธีเดิมคือ print มาเซ็นแล้วอัปโหลดกลับ
  • มีกรณีที่หัวหน้าหรือผู้บังคับบัญชาไม่เซ็น การเจ้าหน้าที่สามารถดึงกลับและส่งคืนให้กับผู้ขอประเมิน
  • ผู้ขอประเมินจะต้องเลือกเองว่าจะให้ใครเป็นคนเซ็น
  • กรณีผู้เซ็นเกษียณไปแล้ว ถือเป็นกรณีพิเศษ ไม่ทำในระบบนี้
  • เมื่อเซ็นแล้ว การเจ้าหน้าที่รับเล่มแล้วส่งต่อให้ผู้ประเมิน
  • มีเรื่องของระยะเวลาที่กรรมการประเมินรับเล่มไปแล้ว ต้องใช้ระยะเวลากี่วัน ประเด็นนี้ระบบจะรองรับแค่ว่า การเจ้าหน้าที่ระบุวันที่เป็น log ไว้ว่ามีการรับงานไปประเมินเมื่อไหร่ และส่งกลับคืนมาเมื่อไหร่
  • มีกรณีที่ผู้ขอประเมินขอยกเลิกการประเมิน มีช่องทางให้กดปุ่มแล้วส่งไปการเจ้าหน้าที่ การเจ้าหน้าที่ส่งไปให้หน่วยรับประเมินยกเลิกอีกที
  • ผลงานเข้าสู่คณะกรรมการประเมิน คณะกรรมการจะมีอำนาจในการพิจารณาว่าผลงานผ่านหรือไม่ผ่าน
  • กรณีชำนาญการ เมื่อประเมินผ่านแล้วต้องส่งเรื่อง/รายงานทั้งหมดไปให้ กก. ตรวจสอบก่อน เพื่อนำไปออกคำสั่ง ถ้า กก. ไม่ตรวจสอบจะไม่ยอมให้ออกคำสั่ง
  • กรณีชำนาญการ ผู้มีอำนาจออกคำสั่งคือ ผอ.สำนัก
  • กรณีชำนาญการพิเศษ ผู้มีอำนาจออกคำสั่งคือปลัด
  • ตัวอย่าง วิศวกรชำนาญการสำนักโยธา ----ขอประเมิน----> ชำนาญการพิเศษ คนรับเรื่องคือการเจ้าหน้าที่โยธา ทำเรื่องส่งให้ สกจ. ทำประกาศ/คำสั่ง ให้ปลัดเซ็น
  • โดยหลักการ ผู้มีอำนาจสั่งบรรจุจะมีอำนาจในการออกคำสั่ง
  • ในระบบนี้ไม่เอาการประเมินเชี่ยวชาญ แม้ตัว TOR จะระบุว่าชำนาญการขึ้นไปก็ตาม เนื่องจากเอกสารและกระบวนการทั้งหมดของเชี่ยวชาญแตกต่างกับชำนาญการ
  • ระบบควรแสดง Timeline ในระบบบริการเจ้าของข้อมูลบุคคล —เมนู—> การประเมิน เพื่อให้ผู้ขอประเมินเห็นสถานะต่าง ๆ ของการประเมินได้ เช่น ประกาศแล้ว ระบบก็จะแสดงว่าผ่านไปแล้วกี่วัน พอพ้น 30 วันให้แจ้งเตือนว่าประกาศครบแล้ว หรือ ผอ.เซ็นเมื่อตอนไหน เป็นระยะเวลากี่วันหลังจากยื่น
  • การประเมินผ่านไปแต่ละ step ต้องมีการแจ้งเตือนผู้ขอประเมิน
  • TOR 6.12.2 (3)(5) ระบบน่าจะทำให้เห็นว่า ในแต่ละ status อยู่ที่หน่วยงานไหน และให้ผู้ขอประเมินสามารถกดส่งข้อความไปยัง inbox ของผู้รับผิดชอบในหน่วยงานนั้นได้
  • ประเด็นปัญหาข้อ 6.12.3 ต้องไปหา 3rd Party มาใช้
  • โดยหลักการ สิ่งที่ต้องการจาก 6.12.3 คือ ผู้ใช้ต้องการเก็บเอกสารผลงานของผู้ประเมินให้เป็นอิเล็กทรอนิกส์ และสืบค้นได้